ม้าล่อที่ดี...ต้องตีแผลไหน
จากในอดีต สู่ปัจจุบันย้อนวันเวลากลับไปเมื่อ 20-25 ปี ที่ผ่านมามีไก่ชนอยู่สายพันธุ์หนึ่ง ที่มีชั้นเชิงมองดูทีไร
แล้วขัดหูขัดตาไปหมด ไก่อะไรกันสาดกระดานวัดแข้งได้ไม่ทันไรที่จะเข้าเกี้ยว มันก็เริ่มที่วิ่งหนีคู่ต่อสู้เสียแล้ว มันก็คือต้องนำเอาไปต้มกินเพียงอย่างเดียว แต่นั่นก็คือไก่ม้าล่อในอดีต ส่วนในปัจจุบันและ ณ.เวลานี้นั้นไก่ สายพันธุ์ม้าล่อได้ถูกการพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จากบรีดเดอร์ไก่ชนในเมืองไทย เพื่อต่อกรกับ ไก่เชิง ไก่เหล่าป่าก๋อย หรือแม้กระทั่งไก่สายพันธุ์พม่าด้วยกันเองพัฒนาให้เป็นไก่ม้าล่อที่ตีไก่มากขึ้นจิต ใ จหนักแน่นมีเบอร์แข้งที่โหด หนักหน่วง ออกอาวุธที่ไวและชัดเจนกว่าเดิม ไม่ห่วงที่จะออกวิ่ง ออกล่อเหมือนแต่ก่อนเป็นที่ถูกใจของบรรดานักเล่น และนักเลงไก่ชนในสนาม เมื่อไก่ม้าล่อชิงจังหว ะตีเข้าเหลี่ยมหู เหลี่ยมตา แล้วพาคู่ต่อสู้ออกวิ่งเหมือนไก่ขาเป๋ เรามักจะได้ยินเสียงคำว่า ต่อ 2 ต่อ 3 แล้วไปออกขายในราคา 10 โน่นเป็นการเล่นไก่ที่ง่ายทั้งเซียนไก่มือเก่า และเซียนไก่มือใหม่ต่างก็มี เงินกลับบ้านพร้อมกับรอยยิ้ม
บทบาทของไก่ชนม้าล่อ
ไก่ชนม้าล่อที่ดีนั้นต้องเป็นไก่ที่มีสปีดขาดี วิ่งจริง หนีไกล ที่สำคัญต้องมีพื้นฐานของความแม่น ไก่ชนม้าล่อนั้นถ้าขาด
ความแม่นแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์ในการใช้งาน เป็นได้ก็แค่ไก่นวมตัวหนึ่งเท่านั้นเอง วิ่งแล้วต้องตบ ตบแล้วมอง มองแล้ววิ่ง ไม่ให้คู่ต่อสู้ได้เข้าประชิดตัว เก็บคู่ต่อสู้ได้ให้รีบเก็บ จุดนี้แหละถือว่าเป็นหัวใจสำคัญมากเหมือนกัน คู่ต่อสู้จะตายอยู่แล้ว ยังจะออกวิ่งล่ออีกใช้ไม่ได้
ม้าล่อที่ดีต้องตีแผลไหน
ด้วยลีลาชั้นเชิงที่เฉียบขาด บวกกับการหนีเก่ง หนีไว แล้วลูกตีแบบไหนที่ตีแล้วโดนได้ใจมากกว่ากัน ไม่ว่าจะเป็นแผลหู ,
แผลตา(วงแดง) , แผลกระเดือกคอเชือด , แผลลำตัวซอกคอ ถือว่าทุกๆแผลที่กล่าวมานั้นเป็นแผลตาย แผลครูทั้งหมด ขอให้ตีจุดเดิมเข้าเป้าบ่อยๆก็ถือว่าใช้ได้
แผลตีของไก่ชนม้าล่อ
1. แผลหู
แผลนี้ถือว่าเป็นแผลที่อันตรายที่สุดดั่งคำโบราณที่เขาว่า ตีหูเสียขา เดินไม่เป็นท่า เอียงไปเอียงมาเมื่อม้าล่อออกวิ่งทำเชิง
มันจะเริ่มทิ้งระยะห่างเพื่อโฟกัสเป้า มันจะตบเข้าที่บ้องหู ไก่ที่โดนตีเข้าแผลหูไปบ่อยมันจะหักเสียศูนย์หนีไก่ได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้นถ้าตีหูต้องตีหูอาชีพจริง ถึงจะเป็นไก่ม้าล่อที่อันตรายจริง
2. แผลตา (วงแดง)
ไก่ม้าล่อที่รักที่จะตีแผลนี้ถือว่าเป็นแผลที่ปราบเซียนจริงๆ เพราะดวงตาเป็นจุดที่อ่อนที่สุด ไม่สามารถที่จะเสริมสร้าง
ความแข็งแรงได้ เป็นอีกแผลหนึ่งที่สามารถเป็นตัวชี้วัดตัดสินเกมส์กันได้ภายในพริบตา ไก่ม้าล่อบางตัวที่แม่นตาบางครั้ง ลูกตีอาจจะตีปนเสียงปีกเหมือนไม่ค่อยแม่น หรือไก่ชนม้าล่อบางตัวอาจตีไม่ค่อยแรงเหมือนไม่มีแรงตี แต่ขอเตือนไว้เลย ว่าให้เราสังเกตุดูแผลตีที่เกิดเป็นหลัก พลั้งมือคัดทิ้งไก่ม้าล่อตัวเก่งออกไปแล้วจะมานั่งเสียใจภายหลังไม่ได้
3. แผลกระเดือก (คอเชือด)
ไก่ม้าล่อที่ตีแผลนี้ถือว่าเป็นแผลระดับปรมาจารย์และเป็นอีกแผลที่ดีที่สุดสำหรับไก่ ม้าล่อมากที่สุด ต่อให้คู่ต่อสู้มีมือน้ำที่
เก่งที่สุดในโลก หรือ มีมือน้ำเทวดา ก็ยากที่จะเยียวยาแผลที่เกี่ยวกับระบบหายใจนี้ได้ เมื่อโดนตีที่เดิมบ่อยๆมันลั่นขึ้น ทั้งบนทั้งล่างหู ตา บางคนคงเคยเห็นกันมาแล้วเป็นตัววิ่งตามไก่ม้าล่อ แต่ตัวเองหน้าตาดำหายใจไม่สะดวก มีโอกาส ที่จะตายได้สูงมาก
4. แผลลำตัว ซอกคอ
ไก่ที่ตีแผลนี้ต้องเป็นไก่ที่มีการตี บวกกับเบอร์แข้งที่หนักหน่วง ถึงจะเอาคู่ต่ออยู่หมัด แผลซอกนี้ถือว่าเป็นแผลที่น่ากลัว
และอันตรายมากแผลหนึ่งเหมือนกัน ตีซอกหลุดแล้วยั่วยุให้คู่ต่อสู่วิ่งตามเหมือนกับรถที่ช่วงล่างเสีย สามารถทำให้ คู่ต่อสู้ท้อวิ่งหนีไก่แบบหน้าใสๆได้ ใครที่เคยชอบไก่เหล่าป่าก๋อยที่ตีซอกรุนแรง ลองหันมาเล่นไก่พม่าม้าล่อที่พาก๋อย วิ่งแล้วกลับมาตีซอกก๋อยรุนแรง ก็เป็นอีกลีลาอีกสีสันหนึ่งได้เหมือนกันครับ....ฉบับนี้ต้องขอลา สวัสดีครับ
ผลการพัฒนาม้าล่อมายาวนานหลายปีได้ข้อสรุปเรื่องสไตล์ม้าล่อที่สำคัญพอจะเล่าสู่กันฟังนะครับ ไก่สไตล์นี้มีรูปแบบลีลา
ชั้นเชิงพอที่เราประมวลได้คือ 1. ล่อรำวง พวกนี้เป็นไก่ล่อสั้น วิ่งช้ายขวา จุดเด่นคือลูกขว้างครับ ลูกข้วางนี่อันตรายที่สุด ตัวเก่ง ๆ มาตรฐานสูงคือคือออก เร็วขว้างถี่ ตัวที่ใช้ไม่ได้คือออกช้างขว้างน้อยใช้ปาก อันนี้ก็ชนได้รับดับชมรมครับ สายพันธุ์ม้าล่อรำวง เป็นสายพันธุ์ที่มี เอกลักษณ์เชิงชนของตนเอง แนวทางการพัฒนาท่านต้องได้สายตัวเมียมาก่อนจึงจะสามารถพัฒนาเลือดนิ่งได้ 2. ล่อยาว ไก่ลีลาล่อยาวส่วนมากเป็นลูกผสมครับ ไม่ใช้พม่าร้อย พม่าร้อยจริง จะไม่เป็นเชิงนี้ ไก่พวกนี้วิ่งให้คู่ต่อสู้เหนือยหอบ แล้วค่อยกลับมาตีครับ เอาชนะได้ง่าย บางตัววิ่งยกสองยกก็มีครับ ไก่พวกนี้ไม่ค่อยมีลูกขว้าง จุดเด่นคือ ชนะไม่ค่อยเจ็บตัว จุดอ่อนคือ ถ้าตัสเองร่างกายไม่ดีพออาจเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ได้ง่าย และไก่พพวกนี้มักจะเป็นฝ่ายเดินเข้าหาคู่ต่อสู้ในกรณีที่ คู่ต่อสู้ไม่เดิน มักเข้าทางพวกถอดถอย 3. ล่อสั้นสลับยาว พวกนี้เป็นสไตล์การชนที่ดีอีกสไตล์หนึ่งไกจะวิ่งสั้นบ้างยาวบ้างตามจังหวะ ถ้าคู่ต่อสู้เผลอก็จะกลับมาทำ พวกนี้เป็นม้าล่ออีกสายหนึ่งที่พบเห็นกับพม่าทั่วไป จุดเด่นคือ ชนสนุกมีการทำคู่ต่อสู้ตลอด จุดด้อยคือไก่พวกนี้มักจะเดิน เข้าหาคู่ต่อสู้ครับ เข้าทางไก่ไม่ตาม ลักษณะการล่อที่ดีคือ 1. ออกเร็ว จังหวะออกตัวต้องดี บางตัวออกตัวไม่ดีจะโดนเขาทำก่อนค่อยวิ่งได้แบบนี้ไมดีครับ 2. ขว้างต้องแม่น หนักหวังผล บางตัวเป็นลูกผสมไม่ค่อยขว้าง แต่ตีหนัก ๆ แบบนี้ก็ถือว่าใช้ได้ครับ คือเขาวิ่งตามมาเราดักดึง ทีให้หยุดแบบนี้ถือว่าใช้ได้ครับ โดยเฉพาะพวกรอยโต ๆ 3. โครงสร้างต้องดี กระดูกใหญ่ครับ พวกเจ้าเนื้อจะเหนื่อยง่ายไม่เหมาะสมเป็นไก่เชิงนี้ครับ ดังนั้นเวลาเลือกเหล่าม้าล่อต้อ งดเรื่องโครงสร้างด้วย 4. ไม่โดดสังเวียน วิ่งไปต้องชำเลืองดูคู่ต่อสู้ไป ไม่ใช่ตั้งหน้าวิ่งอย่างเดียว ตองคอยหาจังหวะทำตลอด
สายพันธุ์ : พม่า ภูมิลำเนาเดิม : ลำพูน รอยและนน. : 2.6กว่า (นน.2.7กว่า) ลีลาชั้นเชิง : ม้าล่อสั้นตบ ชิ่งขยาย ไหลออก ไม่ให้เข้าไกล้ลูกหน้าจัดพิเศษ ตบแม่นคม มีออกล่อยาว (ที่สุดของความถี่และลีลาล่อสั้นตบ) สถิติไฟท์ : 2 ไฟท์ ภาคเหนือ การให้ลูก : ลีลาไม่ผิดเพี้ยน ถึงแม้ว่าจะเพิ่มโครงสร้างกระดูกไปแล้วก็ยังคงมีลูกหน้าออกมาให้เห็นเหมือนเดิม
อ้าวอิง
http://www.oknation.net/blog/tongoou/2009/06/23/entry-1
http://www.meeboard.com/view.asp?user=teerongfong&groupid=11&rid=362&qid=7
http://www.farmkai.com/web-board/data/03834-1-1.html
http://kaichonlannathai.com/forum.php?mod=viewthread&tid=18
|
กลุ่มอนุรักษ์ไก่ชนไทยสายพันธุ์ม้าล้อรำวง
วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)